April 11, 2024 คุ้มไหมกับการเลือก QD-OLED Monitors? แม้ว่าจอมอนิเตอร์ QD-OLED จะมอบประสบการณ์การรับชมแบบไม่มีใครเทียบได้ แต่ก็มักมาพร้อมกับข้อกังวลจากผู้ใช้และนักรีวิวเกี่ยวกับการใช้จอมอนิเตอร์ QD-OLED ซึ่งในบทความนี้เราจะเผยปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับเทคโนโลยีพาเนล QD-OLED อย่างตรงไปตรงมา และวิธีที่การผสมผสานระหว่างการดูแลและฟีเจอร์ซอฟต์แวร์อัจฉริยะที่สามารถใช้บรรเทาปัญหาเหล่านี้ลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ! ข้อกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยีพาเนล QD-OLED / OLED? ทำไมผู้คนถึงกังวลเกี่ยวกับจอมอนิเตอร์ QD-OLED หรือ OLED สาเหตุหลักประการหนึ่งของความกังวลนี้คือความเสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์ใหม่ของคุณอย่างถาวรเพียงใช้งานเหมือนจอแสดงผลธรรมดา ยังไงน่ะเหรอ อาการหน้าจอเบิร์นไงล่ะ เมื่อใดก็ตามที่ใครรีวิวหรือพูดคุยเกี่ยวกับพาเนล OLED ย่อมไม่สามารถหลีกเลี่ยงศัพท์คำนี้ไปได้ ซึ่งมันเป็นข้อเสียของเทคโนโลยี OLED ที่ทำให้หลายคนเกิดความกังวลใจอย่างเข้าใจได้ กล่าวได้ว่าเป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการผสมผสานฟีเจอร์และการดูแลเอาใจใส่อย่างเหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพิจารณาถึงประสบการณ์ด้านการรับชมภาพแล้ว การดูแลจอมอนิเตอร์ของคุณให้ดียิ่งขึ้นย่อมเป็นสิ่งที่คุ้มค่าสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการเทคโนโลยีการแสดงผลที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน อาการหน้าจอเบิร์นคืออะไร? อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะสามารถป้องกันอาการหน้าจอเบิร์นได้สิ่งสำคัญคือการเข้าใจว่ามันคืออะไรและ อะไรที่เป็นสาเหตุของอาการดังกล่าว อาการหน้าจอเบิร์นบนจอ OLED หรือ QD-OLED คือภาพที่มองเห็นได้แบบจางๆ ขององค์ประกอบที่ยังคงอยู่บนหน้าจอ (ค้างอยู่บนหน้าจอ) โดยไม่สัมพันธ์กับเนื้อหาบนหน้าจอของคุณ หากพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ภาพส่วนหนึ่งที่ถูกแสดงบ่อยๆ จะถูกเบิร์นลงบนจอมอนิเตอร์ของคุณอย่างถาวร ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ Taskbar ของวินโดว์หรือตัววิ่งประกาศข่าว (ตามที่แสดงอยู่ด้านล่าง) อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถลดและชะลอความเสียหายนี้ลงได้ในระดับหนึ่งด้วยการผสมผสานแนวทางการใช้งานที่ดีและฟีเจอร์ของซอฟต์แวร์บางอย่างเข้าด้วยกัน สาเหตุอะไรที่ทำให้เกิดอาการหน้าจอเบิร์น? สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดประการหนึ่งของอาการหน้าจอเบิร์นก็คือการที่องค์ประกอบบนหน้าจอค้างอยู่นานเกินไป ตามที่เราได้กล่าวถึงในบทความก่อนหน้าของเรา [ลิงก์ที่นี่] เนื่องจากจอมอนิเตอร์ OLED และ QD-OLED ใช้ OLED หรือไดโอดสารอินทรีย์ที่สามารถเปล่งแสงเองได้เพื่อเปล่งแสงออกมา หากการแสดงผลเดิมปรากฏบนหน้าจอเป็นเวลานานโดยมีระดับความสว่างที่สูงบนพาเนล OLED อาจมีแนวโน้มที่จะเสื่อมสภาพในบริเวณรอบๆ พื้นที่ที่สว่างอยู่ (ดังที่เห็นในภาพด้านบน)อาการหน้าจอเบิร์นบางกรณีอาจเกิดขึ้นแบบชั่วคราวและสามารถแก้ไขได้ด้วยฟีเจอร์รีเฟรชพาเนล อย่างไรก็ตาม หากอาการดังกล่าวเกินจุดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ความเสียหายของพาเนลอาจกลายเป็นความเสียหายแบบถาวรได้ ความร้อนซึ่งแทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น จอมอนิเตอร์ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แผง OLED เสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว การป้องกันอาการหน้าจอเบิร์นและความเสียหายของพาเนล: แน่นอนมันเป็นไปได้ ไม่มีเทคโนโลยีใดที่สมบูรณ์แบบ และนั่นก็เป็นความจริงสำหรับ QD-OLED เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ด้วยวิศวกรรมด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อันชาญฉลาด ทำให้เราสามารถจัดการกับอาการหน้าจอเบิร์นและปกป้องพาเนล QD-OLED เหล่านี้ค่อนข้างดียิ่งขึ้น! OLED Care 2.0 ของ MSI: ถูกออกแบบมาเพื่อความอุ่นใจในการใช้งานของคุณ ระบบจัดการความร้อนที่มีประสิทธิภาพ: เพราะความร้อนที่สูงนั้นทำลายได้ทุกอย่าง และมันน่ากลัวมากๆ ตามที่เราได้กล่าวไว้ในข้างต้น ระดับความร้อนที่สูงเป็นเวลานานอาจทำให้พาเนล OLED เสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น การเพิ่มความสว่างจะทำให้ระดับความร้อนเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การเพิ่มพัดลมเข้าไปก็จะเป็นการเพิ่มเสียงรบกวนที่อาจไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับผู้ใช้งาน จึงนำมาซึ่งการออกแบบระบบระบายความร้อนอัจฉริยะด้วยประสบการณ์การออกแบบจัดวางฮาร์ดแวร์ของ MSI เข้ามาช่วยในเรื่องนี้! จอมอนิเตอร์ QD-OLED ของเรามีฟิล์มกราฟีนที่ทำหน้าที่เป็นตัวระบายความร้อนเพื่อปกป้องแผง OLED ช่วยให้เกิดความสว่างมากขึ้นโดยไม่เสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพ ปกป้องพาเนล QD-OLED อันมีค่าของคุณจากอาการหน้าจอเบิร์นด้วยฟีเจอร์สุดอัจฉริยะ จอมอนิเตอร์ QD-OLED ของ MSI มาพร้อมกับฟีเจอร์ OLED Care 2.0 ซึ่งมีฟีเจอร์มากมายที่จะช่วยปกป้องหน้าจอของคุณและยืดอายุการใช้งานได้เป็นอย่างดี Pixel Shift: การขยับพิกเซลไปรอบๆ ที่ละนิดบนหน้าจอตามช่วงเวลาที่กำหนด (สามารถปรับแต่งช่วงเวลาได้) ซึ่งช่วยให้ภาพไม่หยุดนิ่งและหมุนเวียนภาพออกไปจากจุดที่เคยแสดงผลมา ซึ่งจะเป็นการช่วยลดอาการหน้าจอเบิร์นลงได้ Pixel/Panel Refresh: ในบางครั้ง คุณสามารถเลือกทำการรีเฟรชจอมอนิเตอร์ของคุณแบบรวดเร็ว (การรีเฟรชพิกเซล) หรือแบบละเอียดมากขึ้น (การรีเฟรชจอ) OLED Care จะแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบหากจอมอนิเตอร์ของคุณมีการใช้งานเป็นเวลา 4 ชั่วโมงติดต่อกัน (สามารถปฏิเสธได้สูงสุด 3 ครั้ง) เพื่อเริ่มการรีเฟรชพิกเซลแบบรวดเร็ว Static Screen [...]
April 11, 2024 เจาะลึกเทคโนโลยี QD-OLED: การสร้างจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมที่สมบูรณ์แบบ เทคโนโลยีของจอมอนิเตอร์เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเราได้พัฒนามาไกลมากจากจอมอนิเตอร์แบบ CRT ทั่วไปที่มีด้านหลังจอมอนิเตอร์ที่มีขนาดใหญ่โตในทางกลับกันการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเช่นนี้ย่อมหมายความว่าเกมเมอร์และผู้เล่นมืออาชีพจะตัดสินใจสิ่งที่สำคัญได้ยากขึ้น เมื่อต้องเลือกซื้อจอมอนิเตอร์ตัวถัดไปของคุณ จอมอนิเตอร์ QD-OLED รุ่นใหม่ของ MSI ที่ทำการผสมผสานทั้งสองเทคโนโลยีเข้าด้วยกันเพื่อมอบประสบการณ์การรับชมภาพที่น่าทึ่งด้วยระดับคอนทราสต์ที่น่าทึ่งและสีที่ดำสนิทของหน้าจอ OLED โดยไม่สูญเสียความสว่างและสีสันสดใสและแม่นยำ ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจถึงความแตกต่างระหว่างเทคโนโลยีของพาเนลประเภทต่าง ๆ และดูว่าพวกมันจะสามารถเทียบเคียงกับจอมอนิเตอร์ QD-OLED รุ่นใหม่ล่าสุดได้อย่างไร ทำความเข้าใจจอมอนิเตอร์รูปแบบต่าง ๆ: LED vs. LCD vs. OLED vs. QD คุณอาจพบว่าตัวเองต้องเจอกับคำศัพท์ทางเทคนิคมากมายที่คุณไม่เข้าใจ เมื่อคุณพยายามซื้อจอมอนิเตอร์ที่ดีที่สุดสำหรับชุดคอมพิวเตอร์ของคุณ หากคำศัพท์เช่น LED, LCD ฯลฯ นั้นแปลกใหม่สำหรับคุณไม่ต้องกังวลไป เราจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงโลกของจอมอนิเตอร์และหน้าจอประเภทต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายขึ้น จอมอนิเตอร์ LCD vs. จอมอนิเตอร์ LED: ของฝากจากวันวาน จอมอนิเตอร์ LCD หมายถึงจอมอนิเตอร์ที่ใช้ชั้นคริสตัลเหลวในพาเนลซึ่งเป็นที่มาของชื่อจอมอนิเตอร์ชนิดนี้ นั่นก็คือ Liquid Crystal Display โดยทั่วไปแล้วพาเนล LCD จะใช้ชั้นคริสตัลเหลวที่ประกบอยู่ระหว่างชั้นอื่น ๆ นี่คือภาพจาก ViewSonic ที่แสดงให้เห็นเลเยอร์ชั้นต่าง ๆ ในจอมอนิเตอร์ LCD ทั่วไป แหล่งกำเนิดแสง (เลเยอร์ซ้ายสุด) เป็นตัวกำหนดว่าเทคโนโลยี Backlight ใดที่ใช้เพื่อทำให้จอมอนิเตอร์ของคุณสว่างขึ้น โดยจอมอนิเตอร์ LCD รุ่นเก่าใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์แคโทดเย็นในขณะที่จอมอนิเตอร์ LCD รุ่นใหม่จะใช้ไดโอดเปล่งแสง (LED) LED (ไดโอดเปล่งแสง) คือ สารกึ่งตัวนำที่จะเปล่งแสงเมื่อถูกจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าไป แล้วจอมอนิเตอร์‘LED’พวกนี้คืออะไรล่ะ? นั่นคือชื่อทางการตลาดที่ตั้งให้กับจอมอนิเตอร์ LCD ทั้งหมดที่ใช้เทคโนโลยี Backlight แบบ LED อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไป มันไม่จำเป็นเนื่องจากในขณะนั้นมันยังมีความแตกต่างที่ยังคงเกี่ยวเนื่องกันอยู่ อย่างไรก็ตามในตลาดของยุคปัจจุบันได้เลิกใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ในจอมอนิเตอร์แล้ว ทำให้ทั้งจอมอนิเตอร์ LED และจอภาพ LCD ต่างหมายถึงสิ่งเดียวกันนั่นเอง ทำความเข้าใจเทคโนโลยี IPS, TN และ VA โอเค ถ้าหากตอนนี้จอมอนิเตอร์ LCD และ LED คือสิ่งเดียวกัน แล้วศัพท์อย่างจอมอนิเตอร์ [...]
January 10, 2024 CES 2024 Round-up: จอมอนิเตอร์เกมมิ่ง QD-OLED, เดสก์ท็อปเกมมิ่ง 14th Gen AI และผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่จะเปิดตัวภายในปีนี้ CES 2024 เริ่มขึ้นในวันที่ 9 มกราคม 2024 และเหมือนทุกปี MSI จะนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่จะกำหนดทิศทางสำหรับปีถัดไป ปีนี้ หัวข้อของเราขึ้นอยู่กับการผจญภัยที่ไม่ธรรมดา - ยุค AI ของ Computing! นอกจาก อุปกรณ์คอมประกอบที่ทันสมัย, MSI ยังนำเสนอจอมอนิเตอร์และผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปตั้งโต๊ะรุ่นล่าสุด คุณสมบัติดูแลตาที่ดีมากยิ่งขึ้น มินิพีซีที่มีประสิทธิภาพสูง และอื่นๆ อีกมากมาย จอมินเตอร์เกมมิ่ง QD-OLED รุ่นต่อไป ในปี 2024 รายการจอมอนิเตอร์เกมมิ่งระดับพรีเมี่ยมของ MSI จะมีจอพาแนล QD-OLED คุณจะพบจอโค้งและ จอ Flat มีขนาดต่าง ๆ (สูงสุดถึง 49 นิ้ว) และความละเอียดต่าง ๆ (สูงสุดถึง 4K) เพื่อให้คุณสามารถเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับคุณได้อย่างมากที่สุด จอมอนิเตอร์เหล่านี้มาพร้อมกับตัวเชื่อมต่อ Type-C สูงสุดถึง 90W พร้อม Power Delivery และรองรับ HDMI 2.1 เต็มรูปแบบ (สูงสุดถึง 48 Gbps) การผสมผสานระหว่าง Quantum Dot และ OLED: HDR, ความชัดเจนและภาพสวยงามที่ไม่มีใครเทียบเท่า จอมอนิเตอร์เกมมิ่ง QD-OLED รุ่นต่อไปจาก MSI มีการผสมผสานที่มีประสิทธิภาพของเทคโนโลยี OLED และ Quantum Dot ในขณะที่เทคโนโลยี OLED จ่ายไฟต่อพิกเซล และฉากที่มีสีดำอย่างแท้จริงให้กับเหล่าเกมเมอร์ Quantum Dot ก็จะช่วยเพื่อเสริมประสบการณ์การเล่นเกมด้วยภาพที่คมชัด ภาพละเอียดมากขึ้น ข้อความที่ชัดเจน และการลดขอบของสี จอมอนิเตอร์เหล่านี้ยังจะมีการรับรอง DisplayHDR True Black 400 จาก VESA - ที่รับประกัน Wide Color Gamut การปิด-เปิดพิกเซลที่ระดับพิกเซลและสีดำที่ทำให้ฉากมืดดูสวยมากยิ่งขึ้นในโหมด HDR นอกจากประสิทธิภาพของสีและระดับสีดำ จอมอนิเตอร์ QD-OLED รุ่นต่อไปจาก [...]
November 14, 2023 ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและประสบการณ์การเล่นเกมของคุณด้วย Dual Monitor Arms ในโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะเป็นมืออาชีพในออฟฟิศ หรือเป็นเกมเมอร์ที่ชื่นชอบการเล่นเกม ประสิทธิภาพและการเพลิดเพลินกับการทำสิ่งต่างๆ นั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ นั่นคือที่มาของ Dual Monitor Arms หากคุณกำลังสนใจที่จะใช้งานในอุปกรณ์เสริมนี้ อ่านข้อแนะนำเพื่อทราบเหตุผลว่าทำไมคุณควรพิจารณาใช้งานจอมอนิเตอร์ 2 จอ ในพื้นที่การทำงานหรือพื้นที่การเล่นเกมของคุณ https://th.msi.com/Landing/gaming-with-dual-triple-multi-monitors-setups 1. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ให้คุณสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือเป็นตัวช่วยในการเล่นเกม การใช้งานจอมอนิเตอร์แบบ 2 จอ ช่วยให้คุณสามารถเปิดแอปพลิเคชันหรือเอกสารหลายหน้าพร้อมๆ กันได้ โดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างแท็บหรือหน้าต่างโปรแกรมที่คุณเปิดอยู่ ลองนึกภาพถึงการร่างอีเมลบนหน้าจอหนึ่ง ในขณะที่ค้นคว้าข้อมูลบนอีกหน้าจอหนึ่ง หรือเปรียบเทียบข้อมูลได้อย่างง่ายดายด้วยสเปรดชีตทั้ง 2 หน้า ด้วยการใช้จอมอนิเตอร์ 2 จอ นี้นั้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณให้สูงขึ้นอย่างมาก 2. ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกม จอมอนิเตอร์แบบ 2 จอ สามารถยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมของคุณไปสู่อีกระดับ ลองนึกภาพตัวเองกำลังดื่มด่ำไปกับโลกภายในเกมที่สวยงามตระการตาบนหน้าจอหนึ่ง ในขณะที่ติดตามการแชท สตรีม หรือเมตริกประสิทธิภาพบนอีกหน้าจอหนึ่ง เกมหลายเกมยังรองรับโหมด 2 หน้าจอ ซึ่งจะช่วยขยายขอบเขตการมองเห็นของคุณ และเพิ่มมิติให้กับการผจญภัยในการเล่นเกมของคุณ นี่คือประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาด 3. สร้างสรรค์เนื้อหาได้อย่างสะดวกสบาย สำหรับครีเอเตอร์ นักออกแบบ และนักตัดต่อวิดีโอ จอมอนิเตอร์แบบ 2 จอ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ คุณสามารถวางแคนวาสหลักของคุณไว้บนหน้าจอหนึ่ง ในขณะที่เก็บแถบเครื่องมือ ไทม์ไลน์ และวัสดุอ้างอิงของคุณไว้บนหน้าจอที่ 2 ได้อย่างง่ายดาย การตั้งค่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างแม่นยำและประณีตอีกด้วย 4. ปรับปรุงกระบวนการทำงานของคุณ การตั้งค่าจอมอนิเตอร์แบบ 2 จอ ช่วยให้คุณจัดระเบียบพื้นที่ทำงานและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น คุณสามารถวางตำแหน่งหน้าจอของคุณตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแนวนอน แนวตั้ง หรือแม้แต่การจัดวางแบบหลายจอ ความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้คุณปรับแต่งการตั้งค่าจอมอนิเตอร์ให้ตรงกับความต้องการเฉพาะของคุณ เพื่อสร้างพื้นที่ทำงานที่เหมาะกับคุณอย่างแท้จริง 5. เพิ่มการมองเห็นและลดความยุ่งเหยิง ด้วยการใช้จอมอนิเตอร์แบบ 2 จอ คุณสามารถกำจัดความเลอะเทอะบนหน้าจอหลักของคุณได้ เคลียร์พื้นที่การทำงานหลักของคุณให้สะอาดและน่าใช้งานโดยย้ายเครื่องมือ แอปพลิเคชัน หรือสิ่งต่างๆ ที่ใช้งานเป็นอันดับรองไปที่หน้าจอที่ 2 การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงการโฟกัสในงานของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเครียดของดวงตาจากการสลับหน้าต่างไปมาอย่างต่อเนื่อง 6. ขยายขอบเขตในการทำงานของคุณ การใช้จอมอนิเตอร์แบบ 2 จอ ช่วยให้มุมมองแบบพาโนรามาของโลกดิจิทัลของคุณ ไม่ว่าคุณกำลังค้นคว้า เขียนโค้ด หรือออกแบบ การมีพื้นที่หน้าจอที่เพิ่มขึ้นมาแบบพิเศษนี้จะช่วยให้คุณสามารถมองเนื้อหาทั้งหมดได้ในคราวเดียว ซึ่งจะช่วยลดความจำเป็นในการซูมและเลื่อนดูข้อมูล 7. หลักสรีรศาสตร์ การลงทุนใน Dual Monitor Arms ช่วยให้มั่นใจว่าหน้าจอของคุณอยู่ในระดับความสูงและมุมที่เหมาะสมสำหรับคุณ ข้อได้เปรียบด้านหลักสรีรศาสตร์นี้ช่วยลดความล้าของ คอ ไหล่ และดวงตา เพื่อช่วยให้คุณสามารถทำงานหรือเล่นเกมได้นานขึ้นโดยไม่รู้สึกเมื่อยหรือล้าอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย 8. การปรับแต่งที่หลากหลาย ไม่ว่าพื้นที่การทำงาน หรือพื้นที่การเล่นเกมของคุณจะเป็นอย่างไร Dual Monitor Arms มีตัวเลือกที่หลากหลาย Monitor Arms เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้คุณควบคุมตำแหน่งของหน้าจอได้อย่างเต็มที่ คุณสามารถเอียง และหมุนหน้าจอได้อย่างง่ายดาย เพื่อปรับให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะ และข้อจำกัดด้านพื้นที่ของคุณ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถค้นหามุมมองที่เหมาะสมได้ ไม่ว่าคุณจะชอบแนวตั้งหรือแนวนอน ความยืดหยุ่นของ Dual Monitor Arms ช่วยให้มั่นใจว่าการตั้งค่าของคุณจะได้รับการปรับแต่งตามความต้องการของคุณได้อย่างแม่นยำ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและประโยชน์ในการใช้งานของคุณอย่างสูงสุด จอมอนิเตอร์แบบสองจอและ Dual Monitor Arms ให้ประโยชน์มากมาย ไม่ว่าคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในที่ทำงาน เพลิดเพลินไปกับการเล่นเกม หรือทำให้การท่องโลกอินเตอร์เน็ตของคุณง่ายขึ้น การใช้งานจอมอนิเตอร์แบบสองจอเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณมากที่สุด แต่เรายังมีสิ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากที่กล่าวไปข้างต้น! อย่าพลาดกับโปรโมชันพิเศษของเรา "Double Your Vision, Amplify Your Joy" เมื่อซื้อจอมอนิเตอร์ MSI 27 นิ้ว 2 จอ ที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ แลกรับ MSI Dual Monitor Arms ฟรี ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. - 7 ธ.ค. (ใบเสร็จรับเงินต้องมีวันที่ระหว่าง 01/11/2023 - 30/11/2023) เป็นโอกาสดีที่จะยกระดับการใช้งานจอมอนิเตอร์ของคุณ และรับประโยชน์สูงสุดจากการซื้อสินค้าจาก MSI พร้อมที่จะก้าวเข้าสู่โลกของการใช้งานจอมอนิเตอร์แบบ 2 จอ แล้วหรือยัง? เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและประสบการณ์การเล่นเกมของคุณให้สูงมากยิ่งขึ้น! บันทึกโปรโมชันนี้ไว้ในตอนนี้ และเตรียมตัวไปยกระดับไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของคุณ --> จอมอนิเตอร์ MSI ที่แนะนำ MAG 274[...]
November 07, 2023 Voicemod และ MSI จับมือกันเพื่อมอบประสบการณ์การในการสตรีมมิ่งที่ดีที่สุด MSI X Voicemod: คู่หูในการสตรีมที่สมบูรณ์แบบ MSI ผู้นำระดับโลกด้านการเล่นเกมและคอมพิวเตอร์ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง MSI กับ Voicemod ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับโลกด้านการสังเคราะห์เสียงด้วย AI และระบบเสียงแบบโต้ตอบ ประสบการณ์การสตรีมจะได้รับการปรับปรุงโดยการรวมเทคโนโลยี AI ขั้นสูงของ Voicemod เข้ากับ Mystic Light อันเป็นเอกลักษณ์ของ MSI ที่จะเพิ่มคุณภาพให้เสียง อีกทั้งยังเพิ่มรูปลักษณ์ที่แปลกใหม่ให้กับการถ่ายทอดสด ปลดปล่อยพลังแห่งเสียงและแสงไฟ MSI X Voicemod มอบประสบการณ์การถ่ายทอดสดที่ผสมผสานเทคโนโลยีและความบันเทิงเข้าด้วยกันอย่างลงตัวสำหรับเหล่าเกมเมอร์โดยเฉพาะ ความร่วมมือในครั้งนี้เปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใคร โดยสามารถซิงโครไนซ์แสงไฟ RGB เข้ากับการปรับแต่งเสียงและเอฟเฟกต์เสียงแบบเรียลไทม์ได้ด้วยเทคโนโลยี AI ของ Voicemod ช่วยให้การแปลงเสียงเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น ส่งผลให้การสนทนาและโต้ตอบในรูปแบบออนไลน์นั้นฟังดูเป็นธรรมชาติราวกับการสนทนาแบบตัวต่อตัว พบกับ Voicemod Sync Voicemod Sync เป็นฟังก์ชันใหม่ที่เพิ่มลงในอินเทอร์เฟซของ MSI Center สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ที่เล่นเกมสามารถควบคุมแสงไฟ RGB และฟังก์ชัน Voicemod ได้อย่างง่ายดายภายในแอปเดียว ด้วย Voicemod Sync สตรีมเมอร์สามารถยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมของตนไปอีกขั้นด้วยการตั้งโปรแกรมเอฟเฟกต์แสง RGB ให้เข้ากับการปรับแต่งเสียง Voicemod Sync สามารถใช้ได้กับ เมนบอร์ด กราฟิกการ์ด เคส และผลิตภัณฑ์ที่รองรับ Mystic Light ของ MSI เท่านั้น The Journey Has Just Begun ความร่วมมือที่น่าประทับใจระหว่าง MSI และ [...]
September 28, 2023 การรองรับจอมอนิเตอร์หลายจอ : คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปที่สร้างมาเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าจอมอนิเตอร์หลายจอสามารถเปลี่ยนโฉมการทำงานหรือการเรียนรู้ของคุณได้อย่างไร วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพคือการเสริมจอมอนิเตอร์เข้าไปในการตั้งค่าการทำงานของคุณ ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของคุณได้อย่างมาก ไม่ว่าคุณจะกำลังทำงานจากที่บ้าน หรือทำงานจากที่ออฟฟิศ การทำงานกับจอมอนิเตอร์มากกว่า 1 จอ สามารถให้ข้อดีที่แตกต่างกันไปตามความต้องการและงานของคุณ จอมอนิเตอร์หลายจอสามารถเป็นประโยชน์กับบุคคลและอาชีพต่างๆ ได้ รวมถึงนักออกแบบกราฟิก บรรณาธิการวิดีโอ ผู้ใช้ YouTube และสตรีมเมอร์ โปรแกรมเมอร์ เทรดเดอร์ นักวิจัย ผู้จัดการ นักวิทยาศาสตร์ พนักงาน ผู้บรรยาย นักการศึกษา ครู อาจารย์ และเหล่าเกมเมอร์ การมีจอมอนิเตอร์หลายจอสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพ การทำงาน และประสบการณ์การใช้งานโดยรวมได้อย่างมีนัยสำคัญในหลากหลายสาขา การตัดสินใจใช้จอมอนิเตอร์หลายจอเป็นเรื่องส่วนตัวและขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อาชีพ งานที่ทำ และความชอบส่วนบุคคล สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปที่มีการกำหนดค่าอย่างเหมาะสม มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานแบบหลายจอที่เหมาะสม บทความนี้จะเจาะลึกถึงตัวเลือกการแสดงผลที่เหมาะสมและคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการตั้งค่าต่างๆ การใช้งานจอมอนิเตอร์เพียงจอเดียว: การกำหนดค่าพื้นฐานเริ่มต้นสำหรับผู้ใช้งานโดยทั่วไป คือการใช้งานจอมอนิเตอร์เพียง 1 จอ เหมาะสำหรับงานทั่วไปหลากหลายประเภท รวมถึงการท่องเว็บ และงานภายในออฟฟิศ คุ้มค่าและใช้พื้นที่น้อยลงเพื่อเพิ่มพื้นที่บนโต๊ะทำงานอันมีค่า อย่างไรก็ตามอาจจำกัดความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกันและมีประสิทธิภาพสำหรับงานที่ซับซ้อน Cubi และ PRO DP Series เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่พิจารณาติดตั้งมินิพีซีไว้ด้านหลังของจอมอนิเตอร์ โดยมินิพีซีรุ่นเหล่านี้มีขนาดตัวเครื่องตั้งแต่ 0.66 ถึง 2.3 ลิตร คุณสามารถรับรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในส่วนท้ายของบทความนี้ การใช้งานจอมอนิเตอร์ 2 จอ: จอมอนิเตอร์ 2 จอ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้โดยอนุญาตให้เปิดแอปพลิเคชันหลาย ๆ แอปพลิเคชันพร้อมกัน ทำให้ทำงานเช่นการเขียนคอนเทนต์ การเขียนโค้ด และการวิจัย ที่จะช่วยมอบประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น ซึ่งจะลดความจำเป็นในการสลับไปมาระหว่างหน้าต่าง และช่วยปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ให้ต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น การใช้หน้าจอที่ 2 อาจเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อใช้เครื่องมือสื่อสาร เช่น อีเมล แอพส่งข้อความ หรือวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ วิธีนี้ช่วยให้สามารถเชื่อมต่ออยู่ได้โดยไม่รบกวนงานหลักของการทำงาน ในสภาพแวดล้อมการศึกษา ครูและผู้บรรยายอาจพบว่าการใช้จอมอนิเตอร์ 2 จอเพื่อแสดงเนื้อหาในขณะที่จดบันทึกหรือสื่อการสอนเพิ่มเติมไว้ให้เข้าถึงได้นั้นมีประโยชน์เช่นกัน ในทำนองเดียวกัน เหล่าเกมเมอร์ก็สามารถใช้ประโยชน์จากการตั้งค่าจอมอนิเตอร์ 2 จอ ได้โดยขยายการแสดงผลของหน้าจอในการเล่นเกมของพวกเขาไปทั่วทั้งสองหน้าจอ วิธีนี้จะมอบมุมมองที่กว้างขึ้นและสามารถทำให้การเล่นเกมนั้นเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น ในที่สุด ข้อดีของการใช้จอมอนิเตอร์ 2 จอ ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและการทำงานที่เฉพาะของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการทำงาน เล่นเกม หรือสร้างสรรค์ การใช้งานจอมอนิเตอร์ 2 จอ ก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานได้เป็นอย่างมาก PRO DP21 Series มีทั้งพอร์ต HDMI และ DisplayPort ซึ่งทำให้สามารถรองรับจอมอนิเตอร์ 4K 2 จอได้อย่างง่ายดาย MSI Cloud Center ซึ่งรวมอยู่กับ PRO DP21 มอบการผสานรวมอย่างราบรื่นระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว คุณลักษณะที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้มีฟังก์ชันการสำรองข้อมูลข้ามแพลตฟอร์มที่สะดวกมาก ช่วยให้คุณสามารถสำรองข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ Android หรือ iOS ไปยัง PRO DP21 ได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วผ่านการส่งสัญญาณ Wi-Fi แบบไร้สาย การใช้งานจอมอนิเตอร์ 3 จอ: การใช้จอมอนิเตอร์ 3 จอ อาจเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาสำหรับผู้ที่มีความต้องการในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน การตั้งค่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับงานเช่นการตัดต่อวิดีโอ การวิเคราะห์ทางการเงิน และการสร้างโมเดล 3 มิติ ด้วยการใช้พื้นที่หน้าจอเพิ่มเติม ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับพื้นที่ทำงานที่ขยายออกไปซึ่งช่วยให้จัดระเบียบได้ดีขึ้นและเข้าถึงแอปพลิเคชันหลายตัวได้พร้อมกันได้ง่ายขึ้น นักออกแบบกราฟิก บรรณาธิการวิดีโอ และครีเอเตอร์ สามารถได้รับประโยชน์จากการตั้งค่าจอมอนิเตอร์ 3 จอ เนื่องจากให้พื้นที่เพียงพอสำหรับการทำงานในงานออกแบบและโครงการที่ซับซ้อน การกำหนดค่านี้ช่วยในการทำงานกับเลเยอร์และโครงการที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถทำงานหลายอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเปิดแอปพลิเคชัน เอกสาร หรือเว็บเพจหลายรายการได้พร้อมๆ กัน การตั้งค่านี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับมืออาชีพที่จัดการข้อมูลจำนวนมาก หรือจัดการเครื่องมือซอฟต์แวร์จำนวนมากในครั้งเดียว มินิพีซี Cubi Series มีพอร์ต Thunderbolt, Type C (โหมด DP Alt), HDMI และ DisplayPort ทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อจอมอนิเตอร์ได้สูงถึง 3 จอ อุปกรณ์ขนาดฝ่ามือนี้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและหลากหลายสำหรับทุกคนที่ต้องการเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในแพ็คเกจขนาดกะทัดรัด ในขณะเดียวกัน PRO DP180 เป็นพีซีแบบ Tower ที่มีตัวเครื่องขนาด 18 ลิตร และกราฟิกการ์ดจาก NVIDIA รุ่นล่าสุดที่สามารถรองรับจอมอนิเตอร์ได้สูงสุดถึง 3-4 จอ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับเกมเมอร์ หรือครีเอเตอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพและเอาต์พุตภาพที่ดีที่สุด การใช้งานจอมอนิเตอร์ 4 จอ: การตั้งค่าจอมอนิเตอร์ 4 จอ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานต่างๆ เช่น การซื้อขายหุ้น การออกแบบกราฟิก หรือการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากมอบพื้นที่ทำงานที่กว้างขวาง ทำให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถจัดการหลายๆ งานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยจากพื้นที่หน้าจอที่เพิ่มเติมเข้ามา การใช้จอมอนิเตอร์ 4 จอ ช่วยให้สามารถจัดการโครงการได้อย่างครอบคลุม ในอุตสาหกรรมการเงิน และการตัดต่อวิดีโอ การใช้หลายจอมอนิเตอร์สำหรับข้อมูลที่หลากหลายหรือเครื่องมือตัดต่อสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเร่งรัดงานต่างๆ เช่น การเขียนโค้ด การออกแบบ และการวิเคราะห์ข้อมูล การมีจอมอนิเตอร์ 4 จอ อาจเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้เชี่ยวชาญ เช่น วิศวกรและนักวิจัย ซึ่งต้องเข้าถึงเอกสารทางเทคนิค การจำลอง และสื่อการวิจัยพร้อมกัน ในทำนองเดียวกัน ผู้สร้างเนื้อหา เช่น บรรณาธิการวิดีโอ ศิลปิน 3 มิติ และนักออกแบบกราฟิก สามารถใช้แต่ละจอมอนิเตอร์สำหรับเครื่องมือตัดต่อและองค์ประกอบโครงการที่แตกต่างกัน การใช้จอมอนิเตอร์เฉพาะสำหรับแต่ละงานทำให้การทำงานเหล่านี้ราบรื่นยิ่งขึ้น ด้วยจอมอนิเตอร์ 4 จอ คุณสามารถมองเห็นข้อมูลและเครื่องมือที่หลากหลายพร้อมกัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน MSI PRO DP10 มาพร้อมตัวเครื่องขนาด 1.1 ลิตร และติดตั้งพอร์ต Thunderbolt 4, HDMI, [...]
September 14, 2023 GeForce RTX 4060 Ti 16G - กราฟิกการ์ดที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับ Stable Diffusion XL หากคุณสังเกตในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คุณคงเคยเห็นโพสต์บนโซเชียลมีเดีย บทความข่าว และวิดีโอเกี่ยวกับ AI และเนื้อหาที่พวกเขาสามารถสร้างได้ โดย ChatGPT ซึ่งเป็นผลิตผลของ OpenAI นั้นได้รับความนิยมมากที่สุด อินเทอร์เฟซแบบแชทช่วยให้ผู้ใช้โต้ตอบกับ AI เพื่อถามคำถาม สั่งให้ทำงาน เขียนโค้ด และแม้แต่เขียนประโยค ย่อหน้า หรือแม้แต่บทความทั้งหมด! นอกเหนือจากโมเดลแบบข้อความ เช่น ChatGPT แล้ว ยังมี AI รูปแบบต่างๆ ให้เห็นกันมากขึ้น เช่น AI ที่สามารถสร้างรูปภาพตาม prompt ได้ (เช่น MidJourney, Stable Diffusion, DALL-E เป็นต้น) คุณสามารถขอให้ AI เหล่านี้สร้างงานศิลปะดิจิทัลตามคำแนะนำดังนี้: Prompt: Space battleship, causing objects to disintegrate into atomic particles. cinematic shot + dynamic composition, incredibly detailed, sharpen, details + intricate detail + professional lighting, film lighting + 35mm + anamorphic + lightroom + [...]
September 14, 2023 การกะพริบของจอมอนิเตอร์ และผลกระทบต่อดวงตา จอมอนิเตอร์ส่วนใหญ่มีอัตราการกะพริบเฉลี่ยอยู่ที่ 200-300 ครั้งต่อวินาที อัตราการกะพริบที่สูงจะช่วยเพิ่มความเสถียรและทำให้หน้าจอกะพริบน้อยลง ส่งผลให้การใช้งานสบายสายตามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ แสง backlight บนหน้าจอยังถูกควบคุมผ่านเทคโนโลยี pulse-width modulation (PWM) ซึ่งจะเปิดและปิดอย่างรวดเร็วในความถี่สูงเพื่อควบคุมปริมาณแสงที่ปล่อยออกมา ดังนั้นหากต้องทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน ดวงตาของเราจะต้องจ้องมองการกะพริบมากกว่า 5 ล้านครั้งต่อวัน ด้วยอัตราการกะพริบที่สูง สำหรับสายตาบางคนอาจยังมีความไวต่อการกะพริบและต้องเจอกับปัญหาสุขภาพสายตาจากการใช้งานคอมพิวเตอร์ (CVS) เช่น อาการตาล้าหรืออาการอื่นๆ. ผู้ที่ใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจประสบปัญหาความเหนื่อยล้าและไม่สบายดวงตา อันเกิดจากการกะพริบของจอภาพ โดยการกะพริบของจอหมายถึงความผันผวนอย่างรวดเร็วของความเข้มของแสงเมื่อจอมอนิเตอร์แสดงภาพ MSI ได้พัฒนาเทคโนโลยี EyesErgo ซึ่งเป็นโซลูชันที่ผสมผสานเทคโนโลยีการดูแลดวงตา การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ และซอฟต์แวร์อัจฉริยะเพื่อประสบการณ์การรับชมที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น บทความอธิบายเกี่ยวกับเทคโนโลยี MSI Anti-Flicker ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ EyesErgo และอธิบายสาเหตุของการกะพริบของจอมอนิเตอร์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของดวงตา และให้เคล็ดลับในการลดผลกระทบจากการกะพริบ รวมถึงการปรับปรุงสุขภาพของดวงตา สาเหตุของการกะพริบ การกะพริบของหน้าจอคือความผันผวนของความเข้มของแสงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและซ้ำซ้อนเมื่อจอภาพแสดงภาพ การกะพริบนี้เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น Backlight: หน้าจอจะสว่างขึ้นโดยแสงพื้นหลัง แสงพื้นหลังที่ชำรุดหรือเก่าอาจทำให้หน้าจอกะพริบได้ เทคโนโลยี PWM: PWM เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันทั่วไปในหน้าจอแบบเดิมและอาจทำให้หน้าจอกะพริบได้เช่นกัน • อัตราการรีเฟรช: อัตราการรีเฟรชของจอภาพหมายถึงจำนวนครั้งที่หน้าจอถูกวาดใหม่ต่อวินาที อัตราการรีเฟรชที่ต่ำอาจทำให้หน้าจอกะพริบและเกิดความเครียดต่อดวงตา Power supply: หน้าจอกะพริบอาจเกิดจากแหล่งจ่ายไฟที่ไม่เสถียร เทคโนโลยี Anti-Flicker คืออะไร MSI All-in-One PC มีเทคโนโลยี Anti-Flicker ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งช่วยให้กระแสไฟฟ้าเสถียรและลดการกะพริบได้อย่างมาก เทคโนโลยีนี้ช่วยปกป้องดวงตาของผู้ใช้และป้องกันความเมื่อยล้าและความเครียดที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้หน้าจอนานๆ เทคโนโลยี MSI Anti-Flicker ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้า DC ตัวแปลงดิจิทัลเป็นอนาล็อก (DAC) และตัวต้านทาน ตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้า DC จ่ายแรงดันไฟฟ้าที่เสถียรให้กับตัวแปลงดิจิทัลเป็นอนาล็อก ตัวแปลงจะแปลงสัญญาณ PWM Brightness Control เป็นสัญญาณแรงดันไฟฟ้าแบบอนาล็อก แบนด์วิดท์ของสัญญาณ PWM Brightness Control จะควบคุมสัญญาณแรงดันไฟฟ้าแบบอนาล็อก PWM dimming IC จ่ายแรงดันไฟฟ้าคงที่ ทำให้ backlight IC ปรับความสว่างตามระดับกระแสที่รับรู้จริงได้อย่างเป็นเส้นตรง ค่ากระแสไฟฟ้าขาออกสามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อเปลี่ยนความสว่างของหน้าจอโดยการควบคุมกระแสไฟฟ้า เนื่องจากกระแสไฟฟ้าขาออกคงที่โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงความถี่ ความสว่างของจอภาพจึงไม่กะพริบที่อัตรา 200-300HZ ต่อวินาที เคล็ดลับในการปรับปรุงสุขภาพและความสบายของดวงตาด้วย MSI [...]
September 06, 2023 HDMI2.1 นั้นคืออะไร? และมีประโยชน์อย่างไรต่อการเล่นเกม? ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2560 HDMI Licensing Administrator ได้เปิดตัวมาตรฐานและสเปกออกมาใหม่นั้นคือ HDMI 2.1 แต่มันก็ยังคงต้องใช้เวลาพอสมควรในการนำ HDMI 2.1 ออกสู่ตลาดจอมอนิเตอร์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีจอมอนิเตอร์ที่มาพร้อมกับ HDMI 2.1 ในตลาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยตัว HDMI 2.1 นั้นมีฟังก์ชั่นใหม่ๆ มากมาย รวมถึงการรองรับ 4K@120Hz, 8K@60Hz, อัตราการรีเฟรชที่แปรผันได้, Dynamic HDR, QFT ฯลฯ ทำไม HDMI 2.1 นั้นถึงรองรับหลายๆ อย่างมากกว่า HDMI 2.0? คำตอบอคือการที่ HDMI 2.1 นั้นรองรับการวิ่งของแบนด์วิธที่มีขนาดใหญ่กว่า และสามารถรองรับการแสดงผล 4K ด้วยอัตราการรีเฟรชที่สูง ด้วยแบนด์วิธที่เพิ่มขึ้นมามากสูงสุดถึง 48 Gbps ในทางกลับกัน HDMI 2.0 นั้นรองรับเพียง 18 Gbps หรือรองรับเพียงแค่ 37% ของ HDMI 2.1 เท่านั้น การรองรับความละเอียดสูงสุดของ HDMI Series HDMI2.1 HDMI2.0 HDMI1.4 4K Support to 120Hz Support to 60Hz Support to 144Hz(DSC) 8K Support [...]